อุ้มผาง

Home

Widebase Tour
Knowledge Developer Database Internet Resource Forum
widebase tour
อุ้มผาง
ปกากะญอ
เดินทางท่องเที่ยว
 
อุ้มผาง
รู้จักอุ้มผาง
ชื่ออุ้มผาง
ตำนานอุ้มผาง
ประวัติศาสตร์ปัจจุบัน
หมู่บ้านในอุ้มผาง
สถานที่ท่องเที่ยว
 
ประวัติศาสตร์ปัจจุบัน
การต่อสู้ของชาวปกากะญอ ก่อนยุคสงครามประชาชน
ชาวปกากะญอและโพล่วอุ้มผาง กับสงครามประชาชน
ความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ หลังยุคสงครามประชาชน
ชาวปกากะญอและโพล่วอุ้มผาง กับต่อสู้ทางการเมืองในปัจจุบัน
 

ประมวลภาพอุ้มผาง
น้ำตกทีลอชู
ทัศนียภาพอุ้มผาง
พิพิธภัณฑ์ในอุ้มผาง
ล่องแพอุ้มผาง
บ้านกรูโบ
บ้านตะละโค่ง
น้ำตกทีโบะ
พิธีเปิดอนุสรณ์สถานสงครามประชาชน ม่งคั๋วะ

ดูรายละเอียด

ชาวปกากะญอและโพล่วอุ้มผาง กับสงครามประชาชน

ชาวปกากะญอในตำบลแม่จัน แม่ละมุ้ง และโมโกรได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในปี 2513 หมู่บ้านที่ไม่ได้เข้าร่วมได้แก่ กล้อทอ หนองเซโป ปะละทะ อุ้มผางคี หมู่บ้านที่ดำรงฐานะเป็นเขตจรยุทธคือ วะกรึโคะ วะเบยทะ ปรอพะดู่ ตะเป่อพู ยะเมะคี แม่ละมุ้งคี เดลอคี เชอทะ นอกนั้นเป็นเขตฐานที่มั่น โดยศูนย์กลางอำเภออยู่บ้านหม่องคั๋วะ ศูนย์กลางจังหวัดตาก (ตาก – สุพรรณบุรี – อุทัยธานี – กาญจนบุรี) อยู่ที่บ้านแม่จันทะ

การเข้าร่วมเกิดจากทางการไทยได้ส่งกำลังไปยึดสมบัติเพอเจะที่สำคัญ คือ งาช้างสลักเป็นพระขนาดสูง 1.70 เมตร 1 คู่ ขนาดกลางและเล็กอีกอย่างละคู่ พระพุทธรูปทองคำดำ และพระพุทธรูปอื่นๆ ลุงพินิจผู้เป็นลูกศิษย์เพอเจะในขณะนั้นได้ไปตามหาผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมิวนิสต์ตามคำทำนาย เพอเจะองค์ที่ 7 ว่า "มีมิตรมาทางตะวันออกที่จะช่วยพี่น้องปกากะญอและโพล่วในการต่อสู้กับศัตรู"

ลุงพินิจได้ขึ้นไปที่บ้านม้ง ทุ่งนาน้อย ปัจจุบันชาวม้งถูกอพยพไปอยู่ที่พบพระ การเดินทางครั้งนี้ได้พบกับผู้ปฏิบัติงานชาวไทยชื่อ สหายเลาเล่ง จากนั้นมาชาวบ้านตลอดสายแม่จันได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ผู้บุกเบิกเริ่มต้นของพรรคคอมมิวนิสต์ไทย 4 คนใช้เวลาเพียง 2 ปีในการขยายเขตปฏิบัติงานทั่วทั้งอำเภออุ้มผาง ขยายไปที่ตำบลไล้โหว่ อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรีในปี 2516 อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี และอำเภอบ้านไร่ ในปี 2517

การขยายไปยังอำเภอด่านช้างและอำเภอบ้านไร่ เป็นการเชื่อมโยงกับชาวบ้านแม่จันทะซึ่งอพยพมาจากที่นั่นเพื่อเข้ารีต เพอเจะ พวกเขาย้ายมาประมาณ 30 ปีก่อนเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทย

ในปี 2519 หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา นักศึกษาชุดแรกได้เดินทางเข้าสู่ฐานที่มั่นจังหวัดตาก ผ่านเส้นทางเขื่อนกระเสียว มาที่กิ่งอำเภอด่านช้าง ลงรถยนต์ที่วังยาวและมีทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มารับ แล้วนำไปทางไปข้ามห้วยขาแข้ง จนถึงบ้านกระไดช้าง จากที่นี่เดินทางข้ามทุ่งใหญ่ โดยค้างแรมกลางป่า 2 คืน บนเส้นทางนี้มีน้ำตกสวยงามมากแห่งชื่อห้วยน้ำเขียว อยู่ริมฝั่งกลอง ห่างจากบ้านจันทะประมาณ 1 วันเดินเท้าของชาวบ้าน แต่ล่องแพจากแม่จันทะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

ภายหลังความขัดแย้งของประเทศสังคมนิยมในภูมิภาคนี้ส่งผลให้พรรคคอมมิวนิสต์ไทยเกิดแตกแยก ทั้งระหว่างนักศึกษาและนักการเมืองที่เข้าร่วมกับพรรค และภายในพรรคเองนำไปสู่การอ่อนกำลังลง ในอุ้มผางก็มีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาจำนวนหนึ่งที่นำโดยสหายไทหรือเสกสรร ประเสริฐกุล กับองค์กรนำของพรรค ความขัดแย้งจบลงด้วยการที่ เสกสรร ประเสริฐกุล จีรนันท์ พิตรปรีชา และวิชัย บำรุงฤทธิ์ ต้องออกจากป่าพร้อมกับนักศึกษาอีก 18 คน

บางฉากของ “คนล่าจันทร์” ที่นำไปสร้างเป็นภาพยนต์เรื่อง "14 ตุลา สงครามประชาชน" คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง แต่มีการตีความแตกต่างกันไป เช่น การถูกลอบยิงจากทหารฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อเดินทางออกมาตอนจบของเรื่องเป็นเพียงความรู้สึกหวาดระแวง กลัวการถูกทำร้าย ทั้งที่การสังหารพวกเขาสามารถทำได้ตั้งแต่บ้านแม่จันทะไม่ต้องไปลอบยิงภายหลัง

ภาพยนต์เรื่องนี้สร้างความเสียใจให้กับชาวปกากะญอและโพล่วแถบนี้อย่างมาก ทุกคนบอกว่าพวกเขาไม่เคยคิดทำร้ายสหายไทและนักศึกษา อย่างไรก็ตาม พวกเขายังถามถึงสหายไทหรือเสกสรร ประเสริฐกุล หลายคนมีความยินดีที่เขาเป็นตะล่าพะโด่ (อาจารย์ใหญ่)

ในที่สุดสงครามประชาชนของจังหวัดนี้จึงปิดฉากลง รวมเวลา 16 ปี นับตั้งแต่การแตกเสียงปืนครั้งแรกในปี 2509 ที่แม่สอด จนถึงการวางอาวุธปี 2525 เพื่อรำลึกถึงสงครามประชาชน ชาวปกากะญอ โพล่ว ม้ง และไทย รวมถึงอดีตนักศึกษาที่เข้าร่วมการต่อสู้ในจังหวัดตาก ได้ร่วมกันสร้างอนุสรณ์สถานประวัติศาสาตร์ที่บ้านหม่องคั๋วะ

 

ปรับปรุงข้อมูล 25 ธันวาคม 2549

ปันน้ำใจโครงการนักเรียนบ้านไกล โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม


รู้จักอุ้มผางในอีกมุมมอง จัดทำโดย widebase

ดูรายละเอียด

สงวนลิขสิทธิ์ (R) widebase